ข้อดีข้อเสียการเรียนแบบห้องเรียน

การเรียนแบบห้องเรียน - เรียนภาษาอังกฤษแบบประหยัด เหมาะสำหรับเด็กและคนที่เริ่มเรียนภาษาอังกฤษ
  • ข้อดี
    1. ถ้าเราสงสัยหรือไม่เข้าใจ เราสามารถถามได้ทั้งเพื่อนในห้องและครู
    2. ไม่มีความกดดันเวลาเรียน เพราะมีเพื่อนเยอะ (ส่วนใหญ่จะชวนกันไปเรียนเป็นกลุ่ม)
    3. ได้รู้จักเพื่อนใหม่ และเพื่อนอาจจะแนะนำหนังสือหรือเว็บไซด์ให้เราเข้าไปฝึกภาษาอังกฤษเวลาว่าง
    4. ราคาถูก
    1. ข้อเสีย
      1. ครูไม่สามารถดูแลผู้เรียนได้ทั่วถึงเพราะคนเรียนมีจำนวนมาก
      2. ครูอาจจะไม่สามารถแก้ไขเวลาเราพูดหรือออกเสียงผิดได้ทุกครั้ง
    สำหรับผม การเรียนแบบตัวต่อตัวเหมาะสำหรับเด็กเล็ก หรือผู้ที่เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษ เพราะการเรียนแบบห้องเรียนจะมีความกดดันน้อยกว่าเรียนแบบตัวต่อตัว (ไม่ต้องคิดว่าจะพูดถูกแกรมม่าหรือเปล่า ออกเสียงถูกไหม ฯลฯ) ช่วยเพิ่มความมั่นในการสื่อสารและการใช้งานภาษาอังกฤษ หลังจากเรียนจนเรามีความมั่นใจแล้ว อาจจะลองเปลี่ยนไปเรียนแบบกลุ่มเล็กๆ หรือเรียนตัวต่อตัว เพื่อพัฒนาการที่เร็วขึ้นครับ

    เรียนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนกับจ้างครูมาสอนที่บ้าน แบบไหนดีกว่ากัน?

    เรียนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนหรือสถาบันด้านภาษาอังกฤษ
    ข้อดี
    • โรงเรียนส่วนใหญ่จะมีการคัดเลือกครูที่มีความสามารถในการสอนภาษาอังกฤษ แต่บางโรงเรียนก็จ้างนักท่องเที่ยวมาสอนเช่นกัน
    • มีเอกสารการสอนให้ตลอดเวลาที่เรียน
    • มีมาตรฐานในการสอน
    ข้อเสีย
    • ไม่สามารถเลือกครูที่จะเรียนด้วยได้ ส่วนใหญ่จะเป็นครูคนเดียวสอนตลอด หรือไม่ก็เปลี่ยนกันสอนไปเรื่อยๆ (แต่บางที่ก็บอกได้ว่าครูสอนไม่ดี ต้องการเปลี่ยน)
    • ราคาแพงกว่าการจ้างครูเองโดยตรง
    • เสียเวลาเดินทางจากที่บ้าน
    • โรงเรียนหรือสถาบันส่วนใหญ่จะเปิดคอร์สเป็นแบบกลุ่มเล็ก 2 - 4 คน ถ้ามีคนเรียนไม่พอก็จะไม่เปิดสอน ถ้าต้องการเรียนจริงๆ ก็ต้องเรียนแบบตัวต่อตัวซึ่งราคาแพงมากขึ้นไปอีก
    • ต้องลงเรียนล่วงหน้าทีละหลายชั่วโมง เช่น ลงเรียน 20 ชั่วโมง
    • โรงเรียนและสถาบันส่วนใหญ่ไม่มีให้ทดลองเรียนจริงๆ (ทดลองเรียนในที่นี้หมายถึงทดลองเรียนกับครูจริงๆ ในแบบที่เราสนใจจะเรียน เช่น ถ้าเราต้องการเรียนแบบตัวต่อตัว ทางโรงเรียนหรือสถาบันจะไม่มีให้ทดลองเรียนฟรี 1 ชั่วโมงเหมือนแบบการจ้างครูมาสอนเองที่บ้าน)


    จ้างครูมาสอนเองที่บ้าน
    ข้อดี
    • สามารถทดลองเรียนได้ฟรี 1 ชั่วโมง ส่วนใหญ่ที่ผมเจอคือจะมีการนัดเจอกันครั้งแรกเพื่อพูดคุยว่าเราต้องการเรียนอะไร เค้าสอนอะไรได้บ้าง จบอะไรมา ฯลฯ
    • เลือกครูที่เราต้องการเรียนได้เอง โดยตัดสินใจจากการเจอกันครั้งแรก เช่น ชอบครูสอนสนุก หรือชอบครูที่สอนเน้นเนื้อหา
    • ค่าใช้จ่ายถูกกว่าการเรียนที่สถาบันหรือโรงเรียน
    • เรียนได้ที่บ้านหรือร้านกาแฟใกล้บ้าน (นัดสถานที่สอนได้ตามต้องการ)
    ข้อเสีย
    • เสียเวลาในการหาครูเอง โดยส่วนใหญ่ผมจะหาจากเว็บต่างๆ เช่น ajarn.combangkok.craigslist.co.th/lss/ หรือไม่ก็โพสตามเว็บที่มีชาวต่างชาติเยอะๆ อย่าง thaivisa.com
    • ตอนเริ่มหาครูเองในตอนแรกอาจจะได้ครูที่ไม่ตรงตามความต้องการ เพราะยังไม่มีประสบการณ์ในการเลือกครู ยังไม่รู้ว่าชอบเรียนกับครูแบบไหน (บางคนชอบเรียนกับครูที่สอนตามหนังสือ, บางคนชอบครูที่คุยสนุก, บางคนชอบครูที่เข้มงวดเรื่องแกรมม่า) เรื่องนี้ต้องใช้ประสบการณ์ครับ
    • บางครั้งอาจจะเจอครูที่ไม่มีความรับผิดชอบ นัดเรียนแล้วไม่มา (ผมยังไม่เคยเจอว่าจ่ายเงินเรียนแล้วไม่มา เคยเจอแต่นัดเรียนฟรีแล้วไม่มา 2 - 3 คน)
    จากประสบการณ์ของผม การหาครูเองและจ้างมาสอนที่บ้าน (หรือนัดสถานที่เรียนเองตามร้านกาแฟ) สะดวกและคุ้มค่ามากที่สุด เพราะการไปเรียนตามสถาบันหรือโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า ซึ่งค่าใช้จ่ายพวกนี้ส่วนใหญ่มาจากค่าสถานที่ ค่าเช่นพื้นที่ และส่วนต่างที่โรงเรียนจ่ายให้ครูผู้สอนกับเงินที่เก็บจากเรา เช่น โรงเรียนจ่ายให้ครูชั่วโมงละ 400 บาทแต่เก็บเงินกับเราชั่วโมงละ 600 บาท ซึ่งเงินส่วนต่างนี้ผมคิดว่าเอามาใช้เพิ่มชั่วโมงเรียนดีกว่า

    ถ้าตัดสินใจอยากหาครูสอนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง อย่าลืมอ่าน เทคนิคและวิธีเลือกครูสอนภาษาอังกฤษ และ ค่าเรียนภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัว ตอนที่ 1 จ้างครูมาสอนที่บ้าน นะครับ